24 ชั่วโมงของไอศกรีม: เพื่อนแท้ที่อยู่เคียงข้างในทุกช่วงเวลา
24 ชั่วโมงของไอศกรีม: เพื่อนแท้ที่อยู่เคียงข้างในทุกช่วงเวลา
ประวัติความเป็นมาของไอศกรีม
ไอศกรีมเป็นของหวานที่ได้รับความนิยมมานานนับศตวรรษ โดยมีหลักฐานแรกสุดที่ชี้ให้เห็นว่ามีการบริโภคในประเทศจีนเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน เมื่อราชวงศ์ถังได้คิดค้นของหวานแช่แข็งที่ทำจากนมและน้ำแข็ง ต่อมาในศตวรรษที่ 13 ไอศกรีมได้เดินทางไปยังยุโรปผ่านพ่อค้าชาวอาหรับ และกลายเป็นของหวานที่คนโปรดปรานของขุนนางและราชวงศ์ในอิตาลีและฝรั่งเศส
การผลิตไอศกรีม
ปัจจุบัน ไอศกรีมผลิตขึ้นโดยการผสมนม ไข่ น้ำตาล และส่วนผสมอื่นๆ เช่น รสชาติและสี เข้าด้วยกัน จากนั้นส่วนผสมจะถูกแช่เย็นและกวนอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการเกิดผลึกน้ำแข็งขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ไอศกรีมหยาบ
ประเภทของไอศกรีม
มีไอศกรีมหลายประเภท โดยแบ่งตามปริมาณไขมันเนย นม และส่วนผสมอื่นๆ เช่น
* ไอศกรีม
มีไขมันเนยอย่างน้อย 10% และนมไขมันต่ำไม่เกิน 6%
* ไอศกรีมนม
มีไขมันเนยไม่น้อยกว่า 2.5% และนมไขมันต่ำไม่เกิน 7%
* เชอร์เบท
ทำจากน้ำผลไม้หรือน้ำตาลและน้ำ และมีไขมันเนยไม่เกิน 2%
* เจลาโต
ไอศกรีมสไตล์อิตาลีที่มีไขมันเนยต่ำ (โดยทั่วไปน้อยกว่า 4%) และมีเนื้อที่แน่นกว่าไอศกรีม
ประโยชน์ต่อสุขภาพของไอศกรีม
แม้ว่าไอศกรีมมักจะถูกมองว่าเป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพบางประการ เช่น
* เป็นแหล่งแคลเซียมที่ดี
ไอศกรีมเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดี ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพของกระดูกและฟัน
* มีวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ
ไอศกรีมยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ เช่น วิตามิน A, B12 และ D
* สามารถช่วยลดความเครียด
การกินไอศกรีมสามารถช่วยลดความเครียดได้เนื่องจากมีสารทริปโตแฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยเพิ่มการผลิตเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำให้รู้สึกดี
อันตรายของไอศกรีม
แม้ว่าไอศกรีมจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพบางประการ แต่ก็อาจมีอันตรายได้หากบริโภคมากเกินไป เช่น
* มีน้ำตาลและไขมันสูง
ไอศกรีมมีน้ำตาลและไขมันสูง ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มน้ำหนักและปัญหาสุขภาพอื่นๆ หากบริโภคมากเกินไป
* อาจทำให้เกิดอาการแพ้
ไอศกรีมบางชนิดมีส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น นม ไข่ และถั่ว
* อาจทำให้เกิดฟันผุ
ไอศกรีมมีน้ำตาลสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดฟันผุได้หากบริโภคบ่อยเกินไป
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับไอศกรีม
* คนอเมริกันกินไอศกรีมเฉลี่ย 23 ปอนด์ต่อปี
* รสชาติไอศกรีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลกคือวานิลลา รองลงมาคือช็อกโกแลตและสตรอว์เบอร์รี่
* ไอศกรีมโคนถือกำเนิดขึ้นที่งาน Worlds Fair ในปี 1904 ในเมือง St. Louis รัฐ Missouri
* ไอศกรีมที่แพงที่สุดในโลกคือไอศกรีม "Frozen Haute Chocolate" ซึ่งมีราคา 25,000 ดอลลาร์ต่อถ้วย
* มีพิพิธภัณฑ์ไอศกรีมตั้งอยู่ในเมือง Ben & Jerrys ในรัฐ Vermont ประเทศสหรัฐอเมริกา
เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับไอศกรีม
* ในปี 1989 นักวิจัยชาวอังกฤษได้ค้นพบรสชาติไอศกรีมใหม่ที่ชื่อว่า "แมงป่องย่าง"
* ในปี 2005 นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นได้ประดิษฐ์ไอศกรีมที่สามารถกินได้ในอวกาศ
* ในปี 2016 ชายชาวอเมริกันคนหนึ่งได้กินไอศกรีม 72 รสในคราวเดียว
วิธีทำไอศกรีมที่บ้าน
การทำไอศกรีมที่บ้านเป็นเรื่องง่ายๆ ที่สามารถทำได้ในไม่กี่ขั้นตอน ต่อไปนี้คือสูตรไอศกรีมวานิลลาแบบง่ายๆ:
ส่วนผสม:
* นม 2 ถ้วย
* ครีมข้นหวาน 1 ถ้วย
* น้ำตาล 1 ถ้วย
* วานิลลาสกัด 1 ช้อนชา
วิธีทำ:
1. ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันในโถของเครื่องทำไอศกรีม
2. ปั่นตามคำแนะนำของผู้ผลิต
3. เมื่อไอศกรีมแข็งแล้ว ให้ตักใส่โถแล้วแช่แข็งจนอยู่ตัว
ข้อสรุป
ไอศกรีมเป็นของหวานที่ได้รับความนิยมมานานหลายศตวรรษ และยังคงเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลกในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะกินไอศกรีมเพื่อความอร่อย ประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือเพียงแค่เพื่อดับความร้อน ไอศกรีมก็เป็นของหวานที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้เสมอ