น้ำแข็งเกาะในช่องแช่แข็ง: สัญญาณเตือนจากตู้เย็นของคุณ
น้ำแข็งเกาะในช่องแช่แข็ง: สัญญาณเตือนจากตู้เย็นของคุณ
อย่าปล่อยให้น้ำแข็งเกาะทำลายตู้เย็นของคุณ
ทุกๆปี เจ้าของบ้านกว่า 10 ล้านคนต้องเสียเงินกว่า 450 ล้านดอลลาร์เพื่อซ่อมตู้เย็นที่เสียหายเนื่องจากน้ำแข็งเกาะ จากการศึกษาของ Energy Star น้ำแข็งเกาะเป็นภาวะที่น้ำแข็งจับตัวหนาบนผนัง ช่องเก็บของ และส่วนประกอบอื่นๆ ของช่องแช่แข็ง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเปิดประตูทิ้งไว้นานเกินไป ปะเก็นประตูสึกหรอ หรือระบบละลายน้ำแข็งไม่ทำงานผลกระทบที่ร้ายแรงจากน้ำแข็งเกาะ
น้ำแข็งเกาะไม่เพียงแต่จะทำให้ตู้เย็นของคุณทำงานหนักขึ้นและใช้พลังงานมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น: *ลดประสิทธิภาพ: น้ำแข็งเกาะสามารถสร้างฉนวนระหว่างอาหารและอากาศเย็น ทำให้อาหารของคุณไม่เย็นเท่าที่ควร *
ทำให้เครื่องทำความเย็นทำงานหนักเกินไป: ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมเมื่อมีน้ำแข็งเกาะ ทำให้กินไฟมากขึ้น *
นำไปสู่การเสียหาย: หากปล่อยให้น้ำแข็งเกาะทับถมเป็นเวลานาน อาจทำให้ส่วนประกอบสำคัญในตู้เย็นเสียหายได้ *
กระทบต่อสุขภาพ: น้ำแข็งเกาะอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียและเชื้อราซึ่งอาจทำให้คุณป่วยได้
สัญญาณว่าตู้เย็นของคุณมีปัญหาน้ำแข็งเกาะ
มีสัญญาณหลายประการที่บ่งบอกว่าตู้เย็นของคุณมีปัญหาน้ำแข็งเกาะ ได้แก่: * น้ำแข็งเกาะหนามากบนผนัง ช่องเก็บของ และส่วนประกอบอื่นๆ ของช่องแช่แข็ง * อาหารแช่แข็งละลายเร็วกว่าปกติ * ตู้เย็นทำงานหนักขึ้นและส่งเสียงดังขึ้น * ค่าน้ำค่าไฟเพิ่มสูงขึ้นสาเหตุของน้ำแข็งเกาะ
น้ำแข็งเกาะอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งได้แก่: *การเปิดประตูทิ้งไว้นานเกินไป: ทุกครั้งที่คุณเปิดประตูตู้เย็น อากาศอุ่นและชื้นจะเข้ามาในช่องแช่แข็ง ซึ่งอาจควบแน่นเป็นน้ำแข็งได้ *
ปะเก็นประตูสึกหรอ: ปะเก็นประตูที่สึกหรออาจทำให้มีช่องโหว่สำหรับอากาศอุ่นและชื้นเข้ามา ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดน้ำแข็งเกาะได้ *
ระบบละลายน้ำแข็งไม่ทำงาน: ระบบละลายน้ำแข็งเป็นกลไกที่ออกแบบมาเพื่อละลายน้ำแข็งที่เกาะตัวในช่องแช่แข็ง หากระบบนี้ไม่ทำงาน น้ำแข็งจะเกาะตัวและทับถมกันได้
วิธีป้องกันน้ำแข็งเกาะ
มีหลายวิธีที่คุณสามารถป้องกันน้ำแข็งเกาะในตู้เย็น ได้แก่: *ปิดประตูให้สนิททันที: อย่าเปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้นานเกินความจำเป็น *
ตรวจสอบปะเก็นประตู: ตรวจสอบปะเก็นประตูเป็นประจำเพื่อหารอยฉีกขาดหรือรอยสึกหรอ และเปลี่ยนใหม่หากจำเป็น *
ละลายน้ำแข็งในตู้เย็นเป็นประจำ: ละลายน้ำแข็งในตู้เย็นทุกๆ 6-12 เดือนเพื่อขจัดน้ำแข็งเกาะ *
ปรับอุณหภูมิช่องแช่แข็ง: ปรับอุณหภูมิช่องแช่แข็งให้ต่ำลง 0-5 องศาฟาเรนไฮต์เพื่อลดการก่อตัวของน้ำแข็งเกาะ
วิธีขจัดน้ำแข็งเกาะ
หากช่องแช่แข็งของคุณมีน้ำแข็งเกาะ คุณสามารถขจัดออกได้โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้: *ถอดปลั๊กตู้เย็น: ถอดปลั๊กตู้เย็นก่อนที่จะเริ่มขจัดน้ำแข็งเกาะ *
นำอาหารออก: นำอาหารทั้งหมดออกจากช่องแช่แข็งและเก็บไว้ในภาชนะเย็นชั่วคราว *
ใช้น้ำอุ่น: ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นๆ เช็ดน้ำแข็งเกาะออก *
ใช้ไดร์เป่าผม: คุณสามารถใช้ไดร์เป่าผมเพื่อละลายน้ำแข็งเกาะได้เช่นกัน โดยใช้ลมร้อนเป่าไปที่น้ำแข็งเกาะ *
ใช้พัดลม: คุณสามารถใช้พัดลมเพื่อหมุนเวียนอากาศภายในช่องแช่แข็งและช่วยละลายน้ำแข็งเกาะได้
เรื่องราวกรณีที่น่าสนใจ
พอลเป็นเจ้าของบ้านที่ประสบปัญหาน้ำแข็งเกาะในตู้เย็นโดยไม่ได้ตั้งใจ "ผมมักจะเปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้นานเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจ" พอลกล่าว "และผมก็สังเกตว่ามีน้ำแข็งเกาะจำนวนมากในช่องแช่แข็ง" พอลได้รับคำแนะนำจากเพื่อนให้ละลายน้ำแข็งในตู้เย็นทุกๆ 6 เดือน "ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าการละลายน้ำแข็งเป็นเรื่องสำคัญ" พอลกล่าว "แต่หลังจากที่ฉันละลายน้ำแข็งในตู้เย็น เครื่องก็ทำงานดีขึ้นมากและใช้ไฟน้อยลง"ตารางเปรียบเทียบวิธีการขจัดน้ำแข็งเกาะ
| วิธีการ | ข้อดี | ข้อเสีย | |---|---|---| | น้ำอุ่น | ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ | อาจใช้เวลานาน | | ไดร์เป่าผม | รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ | อาจทำให้เกิดความเสียหายหากใช้ไม่ระมัดระวัง | | พัดลม | ประหยัดและใช้พลังงานน้อย | อาจใช้เวลานาน |คำถามที่พบบ่อย
อะไรคือสาเหตุของน้ำแข็งเกาะในตู้เย็น? น้ำแข็งเกาะอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเปิดประตูทิ้งไว้นานเกินไป ปะเก็นประตูสึกหรอ หรือระบบละลายน้ำแข็งไม่ทำงาน
น้ำแข็งเกาะเป็นอันตรายไหม? น้ำแข็งเกาะอาจทำให้ตู้เย็นของคุณทำงานหนักขึ้นและใช้พลังงานมากขึ้น นอกจากนี้ยังอาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ เช่น การลดประสิทธิภาพ ทำให้เครื่องทำความเย็นทำงานหนักเกินไป และอาจทำให้ส่วนประกอบสำคัญในตู้เย็นเสียหาย
จะป้องกันน้ำแข็งเกาะในตู้เย็นได้อย่างไร? มีหลายวิธีที่คุณสามารถป้องกันน้ำแข็งเกาะในตู้เย็นได้ เช่น ปิดประตูให้สนิททันที ตรวจสอบปะเก็นประตูเป็นประจำ ละลายน้ำแข็งในตู้เย็นเป็นประจำ และปรับอุณหภูมิช่องแช่แข็ง