น้ำแข็งใส เครื่องดื่มดับกระหายของคนไทย
น้ำแข็งใส เครื่องดื่มดับกระหายของคนไทย
น้ำแข็งใส เป็นของหวานยอดนิยมของคนไทยมากว่า 50 ปี มาพร้อมรสชาติหลากหลาย ทั้งหวาน เปรี้ยว มัน เค็ม และเผ็ด โดยปกติแล้วน้ำแข็งใสจะเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ถั่วแดง ลูกชิด ขนุน เฉาก๊วย และทับทิมกรอบ
ประวัติความเป็นมา
น้ำแข็งใสมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ถัง ต่อมาได้แพร่หลายไปยังประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยในสมัยอยุธยา โดยในสมัยนั้นน้ำแข็งใสเป็นของหวานที่หาทานได้ยาก เฉพาะเจ้านายและขุนนางเท่านั้นที่จะได้ลิ้มรส
กระบวนการผลิต
การผลิตน้ำแข็งใสเริ่มจากการนำน้ำเปล่าไปแช่แข็งในตู้แช่แข็ง เมื่อน้ำแข็งแข็งตัวได้ที่แล้วก็นำออกมาบดให้เป็นเกล็ดละเอียด จากนั้นนำเกล็ดน้ำแข็งไปตักใส่ถ้วยหรือแก้ว พร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ ตามต้องการ
ประโยชน์ของน้ำแข็งใส
น้ำแข็งใสมีประโยชน์หลายประการ ได้แก่
* ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้ดี
* ให้ความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
* ช่วยลดความเครียด
* มีสารอาหารต่างๆ เช่น วิตามินซี โพแทสเซียม และแมกนีเซียม
ข้อควรระวัง
แม้ว่าน้ำแข็งใสจะมีประโยชน์หลายประการ แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะการบริโภคน้ำแข็งใสมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย และเจ็บคอได้
เรื่องเล่าขำขัน
มีเรื่องเล่าขำขันเกี่ยวกับน้ำแข็งใสว่า สมัยก่อนมีชายหนุ่มคนหนึ่งไปซื้อน้ำแข็งใสที่ร้านแห่งหนึ่ง เมื่อชายหนุ่มได้รับน้ำแข็งใสแล้วก็รีบกินอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความรีบร้อนทำให้ชายหนุ่มลืมใส่หลอดดูด จึงทำให้ต้องรีบวิ่งไปซื้อหลอดดูดใหม่ที่ร้านสะดวกซื้อ สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนในร้านเป็นอย่างมาก
สถิติที่น่าสนใจ
* คนไทยบริโภคน้ำแข็งใสเฉลี่ย 10 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
* ร้านน้ำแข็งใสในประเทศไทยมีมากกว่า 10,000 ร้าน
* น้ำแข็งใสเป็นของหวานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงฤดูร้อน
การเปรียบเทียบ
ต่อไปนี้เป็นตารางเปรียบเทียบน้ำแข็งใสกับของหวานอื่นๆ
| ของหวาน | แคลอรี | ไขมัน | น้ำตาล |
|---|---|---|---|
| น้ำแข็งใส | 100 | 0 | 15 |
| ไอศกรีม | 200 | 10 | 20 |
| ขนมหวานไทย | 250 | 15 | 25 |
บทสรุป
น้ำแข็งใสเป็นของหวานที่ดับกระหายและให้ความสดชื่นได้เป็นอย่างดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ แต่ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ น้ำแข็งใสเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการกินของคนไทยที่ได้รับการสืบทอดมายาวนานจนถึงปัจจุบัน