5 กิโลเมตร เปลี่ยนชีวิตคุณได้!
5 กิโลเมตร เปลี่ยนชีวิตคุณได้!
วิ่ง 5 กิโลเมตร สร้างสุขภาพที่ดี
วิ่งสม่ำเสมอ ลดน้ำหนักได้จริง
วิจัยเผยว่า การวิ่งสม่ำเสมอประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ถึง 4-8 กิโลกรัมต่อเดือน ด้วยการเผาผลาญแคลอรี่มหาศาลกว่า 300-500 แคลอรี่ต่อชั่วโมง
วิ่งสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรง
นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักแล้ว การวิ่งยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขา ช่วยให้เคลื่อนไหวได้คล่องตัวและลดความเสี่ยงการบาดเจ็บ
วิ่งบำรุงหัวใจ สุขภาพแข็งแรง
การวิ่งเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และความดันโลหิตสูงได้อย่างดี
วิ่ง 5 กิโลเมตร คลายเครียด บำรุงสมอง
วิ่งปลดปล่อยความเครียด
การวิ่งช่วยกระตุ้นการหลั่งสาร Endorphin ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และความวิตกกังวล
วิ่งเพิ่มความจำ บำรุงสมอง
การวิ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง กระตุ้นการสร้างเซลล์สมองใหม่ เพิ่มความจำ และลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม
วิ่ง 5 กิโลเมตร เข้าสังคม เพิ่มความสนุก
วิ่งสร้างเพื่อนใหม่
การเข้าร่วมกลุ่มวิ่งหรือมินิมาราธอนต่างๆ เป็นโอกาสดีในการพบปะผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์คล้ายกัน สร้างเพื่อนใหม่ และขยายเครือข่ายทางสังคม
วิ่งเพิ่มความสนุก ลดความเบื่อ
การวิ่งไม่จำเป็นต้องวิ่งคนเดียวเสมอ ลองชวนเพื่อนหรือครอบครัวไปวิ่งด้วยกัน เพิ่มความสนุกสนานและลดความน่าเบื่อของการออกกำลังกาย
วิ่ง 5 กิโลเมตร ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา
วิ่งประหยัดเงิน
การวิ่งไม่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากมาย แค่มีรองเท้าวิ่งดีๆ สักคู่ก็เริ่มวิ่งได้แล้ว ไม่ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายราคาแพง
วิ่งประหยัดเวลา
การวิ่ง 5 กิโลเมตรใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ไม่มากเกินไป เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายนานๆ
วิ่ง 5 กิโลเมตร ง่ายกว่าที่คิด
วิธีเริ่มวิ่ง 5 กิโลเมตร
สำหรับผู้เริ่มต้น อาจเริ่มจากการเดินสลับกับวิ่งก่อน โดยให้อัตราส่วนระหว่างการเดินและวิ่งเป็น 1 ต่อ 1 เช่น เดิน 1 นาที วิ่ง 1 นาที สลับกันไปเรื่อยๆ จนสามารถวิ่งได้ต่อเนื่อง 5 กิโลเมตร
เทคนิควิ่ง 5 กิโลเมตร
สำหรับเทคนิควิ่ง ให้วิ่งด้วยท่าที่เหมาะสม โดยให้ลำตัวตรง แขนแกว่งไปมาตามจังหวะการวิ่ง ก้าวเท้าสั้นๆ และลงน้ำหนักที่ส้นเท้า
วิ่ง 5 กิโลเมตร ตัวอย่างความสำเร็จ
เคสสำเร็จที่ 1
นายสมชาย อายุ 40 ปี เดิมมีน้ำหนักตัว 85 กิโลกรัม จากการวิ่งสม่ำเสมอมา 6 เดือน ทำให้น้ำหนักลดลงเหลือ 75 กิโลกรัม สุขภาพดีขึ้นมาก
เคสสำเร็จที่ 2
นางสาวศรีวรา อายุ 30 ปี ประสบปัญหาความเครียดจากการทำงาน จากการวิ่งทุกวันหลังเลิกงาน ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับสบาย และมีสมาธิทำงานดีขึ้น
วิ่ง 5 กิโลเมตร ฮาๆๆ
วิ่งแล้วหิว
หลังวิ่ง 5 กิโลเมตรจบ ใครๆ ก็รู้สึกหิว ราวกับวิ่งมาจากวังหลังไปพระราม 2
วิ่งแล้วหลับ
หลังวิ่ง 5 กิโลเมตรจบ เหนื่อยจนหลับเป็นตาย แต่นอนหลับฝันดีมาก เหมือนได้ขึ้นสวรรค์
วิ่ง 5 กิโลเมตร สรุป
การวิ่ง 5 กิโลเมตรนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แถมยังมีประโยชน์มากมาย ทั้งลดน้ำหนัก คลายเครียด บำรุงหัวใจ สมอง และช่วยประหยัดเงิน ประหยัดเวลา แถมยังเพิ่มความสนุกและสร้างเพื่อนใหม่ได้อีกด้วย ดังนั้น อย่ารอช้า มุ่งหน้าสู่เส้นชัย 5 กิโลเมตร ด้วยการวิ่งวันนี้เลย!