สัมผัสความเย็นฉ่ำกับเคล็ดลับการทำน้ำแข็งที่บ้าน

    สัมผัสความเย็นฉ่ำกับเคล็ดลับการทำน้ำแข็งที่บ้าน

    สัมผัสความเย็นฉ่ำกับเคล็ดลับการทำน้ำแข็งที่บ้าน

    น้ำแข็งเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการดับกระหาย คลายร้อน หรือใช้ประกอบอาหาร แต่ทราบหรือไม่ว่าการทำน้ำแข็งเองที่บ้านก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่มีอุปกรณ์และเคล็ดลับที่เหมาะสม

    วิธีการทำน้ำแข็งด้วยเครื่องทำน้ำแข็ง

    *

    เลือกเครื่องทำน้ำแข็งคุณภาพดี

    เครื่องทำน้ำแข็งมีหลายประเภทให้เลือก ควรเลือกเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงและเชื่อถือได้ เพื่อให้ได้น้ำแข็งที่ใสและเย็นจัดอย่างรวดเร็ว *

    เติมน้ำสะอาด

    น้ำที่ใช้ทำน้ำแข็งควรเป็นน้ำสะอาดปราศจากสิ่งเจือปน เพื่อให้ได้น้ำแข็งที่ใสและไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ *

    ตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม

    โดยทั่วไปเครื่องทำน้ำแข็งจะตั้งอุณหภูมิไว้ที่ -18 องศาเซลเซียส แต่สามารถปรับอุณหภูมิให้สูงหรือต่ำกว่าได้ตามความต้องการ *

    รอจนน้ำแข็งแข็งตัว

    เวลาในการทำน้ำแข็งขึ้นอยู่กับขนาดและประสิทธิภาพของเครื่องทำน้ำแข็งโดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที

    วิธีการทำน้ำแข็งโดยไม่ใช้เครื่องทำน้ำแข็ง

    *

    ใช้ถาดทำน้ำแข็ง

    ถาดทำน้ำแข็งเป็นวิธีง่ายที่สุดในการทำน้ำแข็ง เพียงเติมน้ำลงในถาดแล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็ง *

    ใช้ภาชนะทนความเย็น

    หากไม่มีถาดทำน้ำแข็ง สามารถใช้ภาชนะทนความเย็น เช่น ถุงพลาสติกหรือขวดน้ำ ก็ได้ เพียงเติมน้ำลงไปแล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็ง *

    ใช้น้ำเดือด

    กลวิธีนี้จะช่วยให้น้ำแข็งใสและแข็งตัวได้เร็วขึ้น เพียงต้มน้ำให้เดือดแล้วเทลงในถาดทำน้ำแข็งหรือภาชนะทนความเย็นแล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็ง

    เคล็ดลับในการทำน้ำแข็งใส

    *

    ใช้น้ำกลั่น

    น้ำกลั่นปราศจากแร่ธาตุและสิ่งเจือปน ซึ่งจะช่วยให้น้ำแข็งใสและไร้กลิ่น *

    ต้มน้ำก่อน

    การต้มน้ำก่อนจะช่วยขจัดอากาศและสิ่งเจือปนออกจากน้ำ ซึ่งจะทำให้น้ำแข็งใสยิ่งขึ้น *

    แช่ถาดทำน้ำแข็งในช่องแช่แข็ง

    การแช่ถาดทำน้ำแข็งในช่องแช่แข็งก่อนจะช่วยให้น้ำแข็งแข็งตัวเร็วขึ้นและใสกว่าเดิม

    ประโยชน์ของการทำน้ำแข็งเองที่บ้าน

    *

    ประหยัดเงิน

    การทำน้ำแข็งเองที่บ้านช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ เพราะราคาของน้ำแข็งบรรจุถุงนั้นสูงกว่าการทำเองมาก *

    ลดการใช้พลาสติก

    การทำน้ำแข็งเองช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม *

    ควบคุมปริมาณและคุณภาพ

    เมื่อทำน้ำแข็งเองสามารถควบคุมปริมาณและคุณภาพของน้ำแข็งได้ตามต้องการ

    ข้อควรระวัง

    *

    อย่าเติมน้ำจนเต็มถาด

    เพราะเมื่อน้ำแข็งแข็งตัวจะขยายตัวอาจทำให้ถาดทำน้ำแข็งแตกได้ *

    อย่าแช่ถาดทำน้ำแข็งนานเกินไป

    เพราะจะทำให้น้ำแข็งเกาะติดกับถาดและยากต่อการแยกออก *

    ล้างถาดทำน้ำแข็งเป็นประจำ

    เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก

    เรื่องราวที่น่าสนใจ

    *

    นักประดิษฐ์ชาวอเมริกันคนแรกที่ประดิษฐ์เครื่องทำน้ำแข็งคือ Frederic Tudor

    ในปี ค.ศ. 1806 เขาเริ่มขนส่งน้ำแข็งจากรัฐเมนไปยังประเทศในแถบเส้นศูนย์สูตร เช่น คิวบาและคาริบเบียน *

    เจ้าของร้านขายของชำในเมืองเคลียร์วอเตอร์ รัฐฟลอริดา

    ได้ทำลายสถิติโลกกินเนสส์ด้วยการสร้างก้อนน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีน้ำหนักกว่า 108 ตัน *

    ในปี ค.ศ. 1995 บริษัทยูนิลิเวอร์ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ก้อนน้ำแข็งที่ทำจากเจล

    ซึ่งสามารถแช่เย็นได้นานถึง 12 ชั่วโมงโดยไม่ละลาย ก้อนน้ำแข็งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศที่ไม่มีการจำหน่ายไฟฟ้า

    ตารางเปรียบเทียบวิธีการทำน้ำแข็ง

    | วิธีทำ | ระยะเวลา | ความสะดวก | คุณภาพน้ำแข็ง | |---|---|---|---| | เครื่องทำน้ำแข็ง | 10-15 นาที | สะดวกมาก | ใสและเย็นจัด | | ถาดทำน้ำแข็ง | 4-6 ชั่วโมง | สะดวกปานกลาง | ใสปานกลาง | | ภาชนะทนความเย็น | 4-6 ชั่วโมง | สะดวกน้อย | ไม่ใส | | ใช้น้ำเดือด | 2-3 ชั่วโมง | สะดวกปานกลาง | ใสมาก |

    บทสรุป

    การทำน้ำแข็งเองที่บ้านเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และประหยัด นอกจากนี้ยังช่วยลดการใช้พลาสติกลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย ด้วยเคล็ดลับและวิธีการที่เรานำเสนอไปข้างต้น คุณก็สามารถสัมผัสความเย็นฉ่ำจากน้ำแข็งคุณภาพที่คุณทำเองได้อย่างง่ายดาย ice making