น้ำแข็งก้อนใส ไร้กลิ่น! เคล็ดลับเลือกเครื่องทำน้ำแข็งคุณภาพดี พร้อมแนะนำรุ่นยอดนิยม

    น้ำแข็งก้อนใส ไร้กลิ่น! เคล็ดลับเลือกเครื่องทำน้ำแข็งคุณภาพดี พร้อมแนะนำรุ่นยอดนิยม

    น้ำแข็งก้อนใส ไร้กลิ่น! เคล็ดลับเลือกเครื่องทำน้ำแข็งคุณภาพดี พร้อมแนะนำรุ่นยอดนิยม

    ในยุคที่อากาศร้อนจัด การมีเครื่องทำน้ำแข็งติดไว้ที่บ้านหรือที่ทำงานสักเครื่องเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยเลย เพราะสะดวกสบายและช่วยคลายร้อนได้ดี แต่การจะเลือกเครื่องทำน้ำแข็งสักเครื่องก็ใช่ว่าจะง่าย เพราะในท้องตลาดมีเครื่องทำน้ำแข็งหลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับการเลือกเครื่องทำน้ำแข็งคุณภาพดีมาฝาก พร้อมแนะนำรุ่นยอดนิยมที่น่าใช้ มาดูกันเลย

    วิธีเลือกเครื่องทำน้ำแข็ง

    การเลือกเครื่องทำน้ำแข็งให้เหมาะกับการใช้งานมีวิธีการดังนี้

    1. เลือกขนาดและความจุ

    เครื่องทำน้ำแข็งมีหลากหลายขนาดและความจุ โดยขนาดและความจุที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้น้ำแข็งของเรา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเครื่องทำน้ำแข็งขนาดเล็กจะมีความจุอยู่ที่ประมาณ 1-2 กิโลกรัม ส่วนเครื่องทำน้ำแข็งขนาดใหญ่จะมีความจุอยู่ที่ประมาณ 5-10 กิโลกรัมขึ้นไป

    2. เลือกประเภทของน้ำแข็ง

    เครื่องทำน้ำแข็งสามารถทำน้ำแข็งได้หลากหลายประเภท เช่น น้ำแข็งก้อน, น้ำแข็งเกล็ด, น้ำแข็งบด เป็นต้น โดยเราควรเลือกประเภทของน้ำแข็งให้เหมาะกับการใช้งานของเรา เช่น ถ้าเราต้องการน้ำแข็งเพื่อใส่ในแก้วเราควรเลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่ทำน้ำแข็งก้อน แต่ถ้าเราต้องการน้ำแข็งเพื่อปั่นสมูทตี้หรือทำค็อกเทลเราควรเลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่ทำน้ำแข็งเกล็ด

    3. เลือกฟังก์ชันการใช้งาน

    เครื่องทำน้ำแข็งบางรุ่นมีฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติม เช่น ฟังก์ชันตั้งเวลา, ฟังก์ชันทำความสะอาดตัวเอง, ฟังก์ชันเตือนเมื่อน้ำแข็งเต็ม เป็นต้น ซึ่งฟังก์ชันเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องทำน้ำแข็ง

    4. เลือกยี่ห้อและราคา

    หลังจากที่เราเลือกขนาด, ประเภท, และฟังก์ชันการใช้งานของเครื่องทำน้ำแข็งที่เหมาะกับเราแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายก็คือการเลือกยี่ห้อและราคา โดยเราควรเลือกยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือ ส่วนราคาของเครื่องทำน้ำแข็งนั้นก็มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาทขึ้นอยู่กับขนาด, ประเภท, ฟังก์ชันการใช้งาน, และยี่ห้อของเครื่องทำน้ำแข็ง

    ข้อดีของการมีเครื่องทำน้ำแข็ง

    การมีเครื่องทำน้ำแข็งติดไว้ที่บ้านหรือที่ทำงานมีข้อดีหลายประการ เช่น * ความสะดวกสบาย: เราสามารถมีน้ำแข็งใสๆ ไว้ดื่มได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องออกไปซื้อ * ประหยัดเงิน: การทำน้ำแข็งเองนั้นประหยัดกว่าการซื้อน้ำแข็งสำเร็จรูป * สะอาดและปลอดภัย: เครื่องทำน้ำแข็งรุ่นใหม่ๆ มีระบบกรองน้ำในตัว ซึ่งช่วยให้เราได้น้ำแข็งที่สะอาดและปลอดภัย

    เครื่องทำน้ำแข็งยอดนิยม

    ในท้องตลาดมีเครื่องทำน้ำแข็งหลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป ดังนั้นเราจึงควรเลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่เหมาะกับการใช้งานและความต้องการของเรา มาดูเครื่องทำน้ำแข็งยอดนิยมที่น่าใช้กันเลย

    1. Haier HIB-1809E

    Haier HIB-1809E เป็นเครื่องทำน้ำแข็งยอดนิยมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเครื่องทำน้ำแข็งรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัด, น้ำหนักเบา, และใช้งานง่าย นอกจากนี้เครื่องทำน้ำแข็งรุ่นนี้ยังมีระบบกรองน้ำในตัว, ระบบทำความสะอาดตัวเอง, และฟังก์ชันตั้งเวลา ซึ่งระบบและฟังก์ชันเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องทำน้ำแข็ง เครื่องทำน้ำแข็ง Haier HIB-1809E มีขนาด 34.5 x 24 x 32 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 11.5 กิโลกรัม ส่วนความจุของเครื่องทำน้ำแข็งรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 1.8 กิโลกรัม นอกจากนี้เครื่องทำน้ำแข็งรุ่นนี้ยังสามารถทำน้ำแข็งก้อนขนาดเล็กได้ประมาณ 9 ก้อนในเวลา 10 นาที

    2. Electrolux EIM1532

    Electrolux EIM1532 เป็นอีกหนึ่งเครื่องทำน้ำแข็งยอดนิยมที่น่าใช้ โดยเครื่องทำน้ำแข็งรุ่นนี้มีดีไซน์ที่สวยงาม, มีความแข็งแรงทนทาน, และใช้งานง่าย นอกจากนี้เครื่องทำน้ำแข็งรุ่นนี้ยังมีระบบกรองน้ำในตัว, ระบบทำความสะอาดตัวเอง, และฟังก์ชันตั้งเวลา ซึ่งระบบและฟังก์ชันเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องทำน้ำแข็ง เครื่องทำน้ำแข็ง Electrolux EIM1532 มีขนาด 39.5 x 35 x 43.5 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 12.5 กิโลกรัม ส่วนความจุของเครื่องทำน้ำแข็งรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 1.5 กิโลกรัม นอกจากนี้เครื่องทำน้ำแข็งรุ่นนี้ยังสามารถทำน้ำแข็งก้อนขนาดใหญ่ได้ประมาณ 9 ก้อนในเวลา 13 นาที

    3. Mitsubishi MJ-A180XM-R-T

    Mitsubishi MJ-A180XM-R-T เป็นเครื่องทำน้ำแข็งคุณภาพเยี่ยมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเครื่องทำน้ำแข็งรุ่นนี้มีขนาดใหญ่, มีความแข็งแรงทนทาน, และใช้งานง่าย นอกจากนี้เครื่องทำน้ำแข็งรุ่นนี้ยังมีระบบกรองน้ำในตัว, ระบบทำความสะอาดตัวเอง, และฟังก์ชันตั้งเวลา ซึ่งระบบและฟังก์ชันเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องทำน้ำแข็ง เครื่องทำน้ำแข็ง Mitsubishi MJ-A180XM-R-T มีขนาด 40 x 40 x 52 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 15 กิโลกรัม ส่วนความจุของเครื่องทำน้ำแข็งรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 1.8 กิโลกรัม นอกจากนี้เครื่องทำน้ำแข็งรุ่นนี้ยังสามารถทำน้ำแข็งก้อนขนาดใหญ่ได้ประมาณ 9 ก้อนในเวลา 12 นาที

    วิธีการดูแลรักษาเครื่องทำน้ำแข็ง

    เพื่อให้เครื่องทำน้ำแข็งใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน เราควรดูแลรักษาเครื่องทำน้ำแข็งอย่างถูกวิธี ดังนี้ * ทำความสะอาดเครื่องทำน้ำแข็งเป็นประจำ: เราควรทำความสะอาดเครื่องทำน้ำแข็งอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยวิธีการทำความสะอาดนั้นก็คือการถอดถังใส่น้ำแข็งและถาดน้ำแข็งออกจากเครื่องทำน้ำแข็ง จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดเครื่องทำน้ำแข็ง * ล้างถังใส่น้ำแข็งและถาดน้ำแข็ง: หลังจากที่เราทำความสะอาดเครื่องทำน้ำแข็งแล้ว เราควรล้างถังใส่น้ำแข็งและถาดน้ำแข็งด้วยน้ำเปล่า จากนั้นตากให้แห้งสนิทก่อนนำกลับไปใส่ในเครื่องทำน้ำแข็ง * เติมน้ำ: เราควรเติมน้ำลงในเครื่องทำน้ำแข็งให้เต็มอยู่เสมอเพื่อให้เครื่องทำน้ำแข็งสามารถทำน้ำแข็งได้อย่างต่อเนื่อง * เปลี่ยนไส้กรองน้ำ: เราควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำในเครื่องทำน้ำแข็งทุกๆ 3-6 เดือนเพื่อให้ได้น้ำแข็งที่สะอาดและปลอดภัย

    เรื่องราวที่น่าสนใจ

    ในปี 2019 มีชายคนหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาที่โชคดีมาก โดยเขาได้ซื้อเครื่องทำน้ำแข็งมาในราคาเพียง 10 ดอลลาร์สหรัฐจากร้านขายของมือสอง จากนั้นเขาก็ลองเสียบปลั๊กเปิดเครื่องทำน้ำแข็งดู ปรากฏว่าเครื่องทำน้ำแข็งยังใช้งานได้ดีอยู่ ทั้งๆ ที่ตัวเครื่องมีสภาพเก่ามากแล้ว ชายคนดังกล่าวรู้สึกดีใจมากที่เขาได้ซื้อเครื่องทำน้ำแข็งในราคาที่ถูกกว่าราคาปกติหลายเท่าตัว โดยเขานำเรื่องราวนี้ไปเล่าให้เพื่อนๆ และครอบครัวฟัง เพื่อนๆ และครอบครัวของชายคนดังกล่าวรู้สึกดีใจไปกับเขาด้วย นอกจากนี้เพื่อนๆ และครอบครัวของชายคนดังกล่าวยังแซวว่าเขาเป็นคนโชคดีมากที่ได้ซื้อเครื่องทำน้ำแข็งในราคาที่ถูกขนาดนี้ เรื่องราวดังกล่าวกลาย best ice cube machine