ice maker energy consumption

    ice maker energy consumption ## น้ำแข็งใสบริสุทธิ์ มาพร้อมกับค่าไฟที่ต้องจ่าย โลกของเราผจญกับวิกฤตด้านพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างฉลาด ถือเป็นทางออกหนึ่งในการประหยัดพลังงาน ทั้งยังช่วยลดค่าไฟฟ้าในบ้านได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าว ผู้คนต่างแสวงหาความสดชื่นจากน้ำแข็งใส แต่หารู้ไม่ว่าเครื่องทำน้ำแข็งอาจเป็นตัวการที่ทำให้ค่าไฟพุ่งสูงขึ้น ### เครื่องทำน้ำแข็ง ตัวกินไฟอันดับต้นๆ เครื่องทำน้ำแข็งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการแช่แข็งน้ำให้เป็นน้ำแข็ง โดยทั่วไปเครื่องทำน้ำแข็งขนาดเล็กจะกินไฟประมาณ 150-250 วัตต์ ขณะที่เครื่องทำน้ำแข็งขนาดใหญ่กินไฟได้สูงถึง 500 วัตต์ หากคำนวณเป็นค่าไฟฟ้าแล้ว เครื่องทำน้ำแข็งอาจกินไฟได้ถึงเดือนละ 100-200 บาทเลยทีเดียว ### เลือกเครื่องทำน้ำแข็งอย่างไรให้ประหยัดไฟ การเลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่ประหยัดไฟเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีหลักเกณฑ์ในการเลือกดังนี้ - **ขนาดและความจุ:** เลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่มีขนาดและความจุเหมาะสมกับความต้องการใช้งาน หากเลือกเครื่องที่มีขนาดใหญ่เกินไปจะกินไฟมาก แต่หากเลือกเครื่องที่มีขนาดเล็กเกินไปก็จะไม่สามารถผลิตน้ำแข็งได้เพียงพอ - **ฉลากประหยัดไฟ:** เลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งเป็นเครื่องที่กินไฟน้อยกว่าเครื่องทั่วไปถึง 20% - **เทคโนโลยีประหยัดไฟ:** เลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่ใช้เทคโนโลยีประหยัดไฟ เช่น เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ที่ช่วยปรับรอบการทำงานของคอมเพรสเซอร์ให้เหมาะสม ทำให้ประหยัดไฟได้มากขึ้น ### วิธีใช้เครื่องทำน้ำแข็งอย่างประหยัดไฟ นอกจากการเลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่มีประสิทธิภาพแล้ว การใช้งานอย่างถูกวิธีก็ช่วยประหยัดไฟได้เช่นกัน โดยมีวิธีดังนี้ - **ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม:** ตั้งอุณหภูมิของเครื่องทำน้ำแข็งให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ ไม่เย็นจัดจนเกินไป - **ทำความสะอาดถังเก็บน้ำแข็งเป็นประจำ:** ถังเก็บน้ำแข็งที่สกปรกจะทำให้การแช่แข็งน้ำเป็นน้ำแข็งใช้เวลานานขึ้น กินไฟมากขึ้น - **ละลายน้ำแข็งในถังเก็บเป็นประจำ:** น้ำแข็งเกาะภายในถังเก็บจะทำให้เครื่องทำน้ำแข็งทำงานหนักขึ้น กินไฟมากขึ้น - **ปิดเครื่องเมื่อไม่ใช้งาน:** เมื่อไม่ได้ใช้งานเครื่องทำน้ำแข็งเป็นเวลานาน ควรปิดเครื่องเพื่อประหยัดไฟ ### เล่าเรื่อง: คุณนายใจเย็นกับเครื่องทำน้ำแข็งจอมกินไฟ คุณนายใจเย็นเป็นคนชอบดื่มน้ำเย็น แต่เมื่อซื้อเครื่องทำน้ำแข็งมาใช้ กลับพบว่าค่าไฟพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ คุณนายใจเย็นจึงปรึกษาช่างไฟฟ้า ช่างไฟฟ้าแนะนำให้เธอเลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่มีขนาดและความจุเหมาะสมกับความต้องการใช้งาน และตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม คุณนายใจเย็นทำตามคำแนะนำของช่างไฟฟ้า ผลปรากฏว่าค่าไฟลดลงอย่างเห็นได้ชัด ### ตารางเปรียบเทียบเครื่องทำน้ำแข็งประหยัดไฟ | ยี่ห้อ | รุ่น | ขนาด (กิโลกรัม) | ความจุ (ลิตร) | กำลังไฟ (วัตต์) | ราคา (บาท) | |---|---|---|---|---|---| | Electrolux | EIM1500 | 15 | 10 | 150 | 4,990 | | Haier | HRF-200 | 20 | 12 | 200 | 5,990 | | Samsung | RF260 | 26 | 15 | 250 | 6,990 | | Sharp | SJ-ID280 | 28 | 18 | 280 | 7,990 | | Toshiba | GR-RF300 | 30 | 20 | 300 | 8,990 | ### เรื่องขำๆ: น้ำแข็งใส สุดยอดอาหารคลายร้อนของเหล่ามิจฉาชีพ ในช่วงหน้าร้อน มิจฉาชีพมักใช้น้ำแข็งใสเป็นเครื่องมือในการแอบอ้างขายของที่ไม่ซื่อสัตย์ เช่น การนำน้ำแข็งใสมาแช่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้วหลอกขายว่าเป็นของใหม่ การนำน้ำแข็งใสมาแช่ของสดแล้วหลอกขายว่าเป็นของใหม่ หรือการนำน้ำแข็งใสมาแช่ยาเสพติดแล้วหลอกขายว่าเป็นยาบำรุงสุขภาพ ดังนั้น ผู้บริโภคควรระมัดระวังและสังเกตให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อของจากมิจฉาชีพ ### เกร็ดน่ารู้: กำเนิดเครื่องทำน้ำแข็ง เครื่องทำน้ำแข็งเครื่องแรกถูกประดิษฐ์ขึ้นโดย Frederick Tudor พ่อค้าชาวอเมริกันในปี ค.ศ. 1806 เดิมทีเครื่องทำน้ำแข็งเป็นสิ่งที่หรูหรา มีเฉพาะผู้มีอันจะกินเท่านั้นที่สามารถเป็นเจ้าของได้ แต่ในปัจจุบันเครื่องทำน้ำแข็งเป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วไป ### สรุป เครื่องทำน้ำแข็งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมาก โดยกินไฟได้ถึงเดือนละ 100-200 บาท การเลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่ประหยัดไฟและใช้งานอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญในการประหยัดพลังงานและค่าไฟฟ้า นอกจากนี้ ผู้บริโภคควรระมัดระวังมิจฉาชีพที่ใช้เครื่องทำน้ำแข็งเป็นเครื่องมือในการแอบอ้างขายของ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่ความต้องการน้ำแข็งใสสูง ice maker energy consumption