น้ำแข็งใสหนึ่งในใจของฉัน...เป็นอย่างนี้เองเหรอ?

    น้ำแข็งใสหนึ่งในใจของฉัน...เป็นอย่างนี้เองเหรอ?

    น้ำแข็งใสหนึ่งในใจของฉัน...เป็นอย่างนี้เองเหรอ?

    ในช่วงซัมเมอร์อันแสนร้อนระอุแบบนี้ คลายร้อนด้วยอะไรได้ดีไปกว่าน้ำแข็งใสหวานๆ เย็นๆ ใช่แล้ว...น้ำแข็งใสที่เป็นใจกลางของของหวานทั้งหลาย ทำให้เราเย็นใจได้ทุกครั้งที่ได้กิน แต่คุณรู้หรือไม่! น้ำแข็งใสที่คุณกินเข้าไปนั้น สะอาดจริงหรือไม่? ผ่านกระบวนการผลิตอย่างไร มาจากแหล่งน้ำไหน ปลอดภัยแค่ไหน วันนี้เราจะพาคุณไปดูเบื้องหลังการผลิตน้ำแข็งใส เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคุณเวลาที่กินน้ำแข็งใส จะได้กินแล้วชื่นใจ หายร้อนกันถ้วนหน้า

    ที่มาของน้ำแข็งใส

    น้ำแข็งใสมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนเมื่อราวๆ 2,000 ปีก่อน โดยชาวจีนได้ใช้หิมะที่ตกในฤดูหนาว นำมาขูดเป็นเกล็ดแล้วนำมาผสมกับน้ำเชื่อมเพื่อเพิ่มรสชาติ ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 18 การทำน้ำแข็งใสได้แพร่หลายเข้ามาสู่ญี่ปุ่น โดยชาวญี่ปุ่นได้พัฒนาเครื่องจักรเพื่อผลิตเกล็ดน้ำแข็ง ทำให้น้ำแข็งใสเป็นที่นิยมแพร่หลายมากยิ่งขึ้นในช่วงเวลาต่อมา

    กระบวนการผลิตน้ำแข็งใส

    ในปัจจุบัน การผลิตน้ำแข็งใสมีหลากหลายวิธี แต่โดยทั่วไปแล้ว กระบวนการผลิตน้ำแข็งใสจะประกอบด้วยขั้นตอนหลักๆ ดังนี้ - การเตรียมน้ำ น้ำที่ใช้ในการผลิตน้ำแข็งใสจะต้องเป็นน้ำสะอาด ปราศจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนต่างๆ โดยจะต้องผ่านกระบวนการกรองและฆ่าเชื้อโรคก่อนนำมาใช้ - การแช่แข็งน้ำ น้ำที่ผ่านการเตรียมแล้วจะถูกนำไปแช่แข็งในเครื่องทำน้ำแข็ง โดยเครื่องทำน้ำแข็งจะทำให้น้ำแข็งเย็นตัวลงจนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง - การเก็บรักษาน้ำแข็งใส เกล็ดน้ำแข็งที่ได้จากเครื่องทำน้ำแข็งจะถูกเก็บรักษาไว้ในห้องเย็นที่รักษาอุณหภูมิต่ำ เพื่อป้องกันการละลายและการปนเปื้อนของเชื้อโรค

    แหล่งน้ำที่ใช้ในการผลิตน้ำแข็งใส

    แหล่งน้ำที่ใช้ในการผลิตน้ำแข็งใสมีความสำคัญอย่างมากต่อความปลอดภัยและคุณภาพของน้ำแข็งใส โดยแหล่งน้ำที่ใช้ในการผลิตน้ำแข็งใสสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ - น้ำประปา เป็นน้ำที่ผ่านการบำบัดและฆ่าเชื้อโรคแล้วจากการประปา มีความสะอาดและปลอดภัยสูง จึงสามารถนำมาใช้ในการผลิตน้ำแข็งใสได้ - น้ำบาดาล เป็นน้ำที่อยู่ใต้ดินซึ่งผ่านการกรองจากชั้นดินหินและทรายแล้ว มีความสะอาดและปลอดภัยพอสมควร แต่ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำก่อนนำมาใช้ในการผลิตน้ำแข็งใส

    มาตรฐานความปลอดภัยของน้ำแข็งใส

    เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของน้ำแข็งใส หน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยไว้ ดังนี้ - องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ปริมาณแบคทีเรียในน้ำแข็งใสต้องไม่เกิน 100 หน่วยต่อมิลลิลิตร (CFU/ml) - กระทรวงสาธารณสุขไทย กำหนดให้ปริมาณแบคทีเรียในน้ำแข็งใสต้องไม่เกิน 300 CFU/ml

    การเลือกซื้อน้ำแข็งใสที่ปลอดภัย

    เพื่อความปลอดภัยในการกินน้ำแข็งใส ควรเลือกซื้อน้ำแข็งใสจากร้านค้าที่ได้มาตรฐาน โดยสังเกตจากลักษณะต่างๆ ดังนี้ - น้ำแข็งใส มีลักษณะเป็นเกล็ดเล็กละเอียด ไม่มีกลิ่นเหม็นหรือมีสิ่งเจือปน - ร้านค้า มีความสะอาด ถูกสุขลักษณะ พนักงานสวมถุงมือและผ้าปิดปาก - เครื่องทำน้ำแข็ง มีความสะอาด ปราศจากคราบน้ำแข็งเกาะหรือสิ่งสกปรก
    น้ำแข็งใสหนึ่งในใจของฉัน...เป็นอย่างนี้เองเหรอ?

    อุทาหรณ์จากการกินน้ำแข็งใสที่ไม่สะอาด

    มีหลายกรณีที่เกิดจากการกินน้ำแข็งใสที่ไม่สะอาด เช่น - ในปี 2019 มีผู้เสียชีวิต 1 คน และป่วย 20 คน จากการกินน้ำแข็งใสที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย Salmonella ในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา - ในปี 2020 มีผู้ป่วย 10 คน จากการกินน้ำแข็งใสที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสตับอักเสบ A ในจังหวัดชลบุรี ประเทศไทย

    วิธีทำน้ำแข็งใสกินเองที่บ้าน

    หากต้องการความมั่นใจในความสะอาดและปลอดภัยของน้ำแข็งใส สามารถทำน้ำแข็งใสกินเองที่บ้านได้ โดยทำตามขั้นตอนดังนี้ - เตรียมน้ำ เตรียมน้ำสะอาดโดยกรองผ่านเครื่องกรองน้ำหรือต้มน้ำให้เดือดแล้วปล่อยให้เย็น - แช่แข็งน้ำ นำน้ำที่เตรียมไว้เทใส่ถาดแล้วนำไปแช่แข็งในตู้เย็นจนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง - ขูดเกล็ดน้ำแข็ง นำถาดน้ำแข็งออกจากตู้เย็นแล้วใช้ช้อนหรือเครื่องขูดน้ำแข็งขูดเกล็ดน้ำแข็งออกมาใส่ภาชนะ

    ประโยชน์ของน้ำแข็งใส

    ถึงแม้ว่าน้ำแข็งใสจะมีแคลอรี่ต่ำ แต่ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ ดังนี้ - ช่วยคลายร้อน น้ำแข็งใสช่วยลดอุณหภูมิร่างกายทำให้รู้สึกเย็นสบาย - ช่วยดับกระหาย น้ำแข็งใสช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับร่างกาย - ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร น้ำแข็งใสช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตทำให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น

    ข้อควรระวังในการกินน้ำแข็งใส

    ถึงแม้ว่าน้ำแข็งใสจะเป็นของหวานที่ชื่นใจ แต่ก็มีข้อควรระวังในการกิน ดังนี้ - ไม่ควรกินน้ำแข็งใสมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ - ไม่ควรกินน้ำแข็งใสที่ละลายแล้ว เพราะอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ - ไม่ควรกินน้ำแข็งใสที่วางทิ้งไว้นาน เพราะอาจละลายและมีเชื้อโรคเจริญเติบโตได้

    สรุป

    น้ำแข็งใสเป็นของหวานที่ชื่นใจและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่เพื่อความปลอดภัยในการกินน้ำแข็งใส ควรเลือกซื้อน้ำแข็งใสจากร้านค้าที่ได้มาตรฐานและสังเกตลักษณะต่างๆ ของน้ำแข็งใสก่อนกิน หรือหากต้องการความมั่นใจ สามารถทำน้ำแข็งใสกินเองที่บ้านได้ โดยใช้วิธีง่ายๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว mold for ice balls