เครื่องทำไอศกรีมไทยสร้างรายได้ เพิ่มยอดขาย
เครื่องทำไอศกรีมไทยสร้างรายได้ เพิ่มยอดขาย
ตั้งใจมาขาย สุดท้ายกลายเป็นเครื่องทำเงิน
คุณภัทรวดี สิริธนากร เจ้าของแฟรนไชส์ไอศกรีมชื่อดัง เล่าให้เราฟังว่า ตนเองนั้นไม่ได้มีความชำนาญในด้านการทำอาหารหรือขนมหวานมาก่อน แต่ด้วยความที่ชื่นชอบในการรับประทานไอศกรีมไทย จึงมีความคิดอยากที่จะลองทำขายดู เพื่อหารายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ
"ช่วงแรกก็ไปเรียนสูตร ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง จนได้สูตรที่ลงตัว จากนั้นก็เริ่มขายที่บ้าน โดยลงทุนซื้อเครื่องทำไอศกรีมขนาดเล็กมา 1 เครื่อง ราคาประมาณ 20,000 บาท" คุณภัทรวดีเล่า
ผลตอบรับดีเกินคาด
ปรากฏว่าไอศกรีมไทยฝีมือคุณภัทรวดีได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จนต้องเพิ่มเครื่องทำไอศกรีมเป็น 3 เครื่อง และในที่สุดก็ลาออกจากงานประจำมาทำไอศกรีมขายเต็มตัว พร้อมกับขยายสาขาไปยังจังหวัดอื่นๆ
เครื่องทำไอศกรีมไทย อุปกรณ์ทำเงิน
ปัจจุบันธุรกิจไอศกรีมไทยของคุณภัทรวดีเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีสาขามากกว่า 50 สาขา ทั่วประเทศ โดยเครื่องทำไอศกรีมไทยถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
"เครื่องทำไอศกรีมไทยช่วยให้เราผลิตไอศกรีมได้รวดเร็วและมีคุณภาพได้มาตรฐาน ทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ" คุณภัทรวดีกล่าว
เลือกเครื่องทำไอศกรีมไทยอย่างไร
คุณภัทรวดีแนะนำว่า ผู้ที่สนใจลงทุนเครื่องทำไอศกรีมไทย ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
* ขนาดและกำลังการผลิต
เลือกเครื่องทำไอศกรีมที่มีขนาดและกำลังการผลิตเหมาะสมกับขนาดธุรกิจ เช่น หากต้องการผลิตไอศกรีมจำนวนไม่มาก อาจเลือกเครื่องทำไอศกรีมขนาดเล็ก แต่หากต้องการผลิตไอศกรีมจำนวนมาก อาจเลือกเครื่องทำไอศกรีมขนาดใหญ่
* ฟังก์ชันการทำงาน
เครื่องทำไอศกรีมไทยที่ดีควรมีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย เช่น สามารถปรับความแข็งและความนุ่มของไอศกรีมได้ ควบคุมอุณหภูมิจึงทำให้คงความสดใหม่ได้ยาวนาน รวมถึงมีระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ
* ราคา
เครื่องทำไอศกรีมไทยมีราคาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาด กำลังการผลิต และฟังก์ชันการทำงาน ผู้ลงทุนควรเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ แหล่งเพื่อให้ได้เครื่องทำไอศกรีมที่มีคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม
เทคนิคการทำไอศกรีมไทยให้ขายดี
นอกจากการเลือกเครื่องทำไอศกรีมไทยที่มีคุณภาพแล้ว คุณภัทรวดียังแนะนำเทคนิคในการทำไอศกรีมไทยให้ขายดี ดังนี้
* ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี
เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี เช่น กะทิคั้นสด น้ำตาลแท้ ถั่วเขียวซีก และผลไม้สด เพราะจะช่วยให้ไอศกรีมไทยมีรสชาติที่อร่อยและหอมมัน
* ควบคุมความหวาน
คนไทยส่วนใหญ่นิยมรับประทานของหวาน แต่หากไอศกรีมหวานเกินไปก็จะทำให้เลี่ยนได้ ผู้ผลิตไอศกรีมจึงควรควบคุมความหวานให้อยู่ในระดับที่พอดี
* สร้างสรรค์รสชาติใหม่ๆ
นอกจากรสชาติยอดนิยมอย่างกะทิและมะพร้าวแล้ว ผู้ผลิตไอศกรีมไทยควรสร้างสรรค์รสชาติใหม่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า เช่น ทุเรียน เผือก ข้าวเหนียวดำ ชาเขียว เป็นต้น
* ตกแต่งไอศกรีมให้สวยงาม
การตกแต่งไอศกรีมให้สวยงามน่ารับประทานจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับไอศกรีมได้ ซึ่งผู้ผลิตไอศกรีมสามารถตกแต่งไอศกรีมได้หลากหลายวิธี เช่น โรยหน้าด้วยถั่วและผลไม้สด กรีดลวดลายบนไอศกรีม หรือปั้นไอศกรีมเป็นรูปทรงต่างๆ
ลงทุนอย่างไรให้คุ้มค่า
การลงทุนเครื่องทำไอศกรีมไทยถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับผู้ลงทุนได้ โดยผู้ลงทุนควรคำนวณต้นทุนและผลกำไรอย่างรอบคอบ โดยทั่วไปแล้วเครื่องทำไอศกรีมไทยจะคืนทุนได้ภายใน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และกลยุทธ์การตลาด
กำไรหลักแสนต่อเดือน
จากการสำรวจของสมาคมผู้ผลิตไอศกรีมไทย พบว่า ผู้ผลิตไอศกรีมไทยรายย่อยสามารถสร้างรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน โดยผู้ผลิตไอศกรีมไทยขนาดกลางและขนาดใหญ่สามารถสร้างรายได้หลักล้านบาทต่อเดือนได้เลยทีเดียว
อย่ารอช้า
หากคุณกำลังมองหาธุรกิจที่ทำกำไรได้ดีและยั่งยืน การลงทุนเครื่องทำไอศกรีมไทยถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะไอศกรีมไทยเป็นขนมหวานที่คนไทยชื่นชอบและรับประทานกันอย่างแพร่หลายในทุกเพศทุกวัย
สรุป
เครื่องทำไอศกรีมไทยเป็นอุปกรณ์ทำเงินที่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับผู้ลงทุนได้ โดยผู้ที่สนใจลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดและกำลังการผลิต ฟังก์ชันการทำงาน และราคา รวมถึงควรมีเทคนิคในการทำไอศกรีมไทยให้ขายดี เช่น ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี ควบคุมความหวาน สร้างสรรค์รสชาติใหม่ๆ และตกแต่งไอศกรีมให้สวยงาม หากผู้ลงทุนปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ได้ เชื่อว่าการลงทุนเครื่องทำไอศกรีมไทยจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน