**น้ำแข็งใสในดวงใจ ละลายความร้อนกายใจคลายร้อน**

    **น้ำแข็งใสในดวงใจ ละลายความร้อนกายใจคลายร้อน**

    **น้ำแข็งใสในดวงใจ ละลายความร้อนกายใจคลายร้อน**

    **คำนำ**

    ในยามที่อากาศร้อนอบอ้าว ร่างกายต้องการอะไรสักอย่างที่จะมาช่วยคลายความร้อนและดับกระหาย นั่นก็คือ "น้ำแข็งใส" ของหวานหวานเย็นที่เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเพศทุกวัย ด้วยรสชาติที่หวานชื่นใจ บวกกับเครื่องเคียงที่หลากหลาย จึงทำให้เป็นของหวานที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน

    **น้ำแข็งใส: ของหวานคลายร้อนยอดนิยม**

    รู้หรือไม่ว่าน้ำแข็งใสเป็นของหวานที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยมีข้อมูลจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ระบุว่า ตลาดน้ำแข็งใสในไทยมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยที่ชื่นชอบของหวานเย็น โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน

    **คุณค่าทางโภชนาการของน้ำแข็งใส**

    แม้ว่าน้ำแข็งใสจะเป็นของหวานที่ให้ความสดชื่น แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากส่วนประกอบหลักอย่างน้ำแข็งและน้ำเชื่อมมีปริมาณน้ำตาลสูง อาจส่งผลต่อสุขภาพได้ อย่างไรก็ตาม น้ำแข็งใสยังมีส่วนประกอบที่มีประโยชน์ เช่น * **ผลไม้:** หากเลือกเครื่องเคียงเป็นผลไม้สด เช่น สับปะรด มะม่วง จะได้สารอาหารอย่างวิตามินและแร่ธาตุ * **น้ำกะทิ:** หากเลือกใส่น้ำกะทิ จะได้ไขมันดีจากมะพร้าว ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด

    **เครื่องเคียงหลากหลาย เพิ่มความอร่อย**

    จุดเด่นอีกอย่างของน้ำแข็งใสก็คือ เครื่องเคียงที่มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น * **ผลไม้สด:** สับปะรด มะม่วง ฝรั่ง เป็นต้น * **ผลไม้เชื่อม:** ลูกชิด เชียงดา ลำไย เป็นต้น * **ถั่วต่างๆ:** ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วดำ เป็นต้น * **วุ้น:** วุ้นมะพร้าว วุ้นสีต่างๆ เป็นต้น * **น้ำเชื่อมหลากรส:** รสหวาน รสเปรี้ยว รสช็อกโกแลต เป็นต้น

    **ประวัติความเป็นมาของน้ำแข็งใส**

    เชื่อกันว่าน้ำแข็งใสมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยมีบันทึกว่าในสมัยราชวงศ์ถัง มีการนำน้ำแข็งมาแช่ในน้ำเชื่อมและเสิร์ฟให้กับชนชั้นสูง ต่อมาในสมัยราชวงศ์ซ่ง ชาวจีนได้เริ่มเติมผลไม้สดและเครื่องเคียงต่างๆ ลงไปด้วย

    **น้ำแข็งใสในประเทศไทย**

    น้ำแข็งใสเข้ามาในประเทศไทยในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยชาวจีนที่อพยพมาตั้งรกรากในประเทศไทย และได้ปรับสูตรให้เข้ากับรสนิยมของคนไทยโดยใส่น้ำเชื่อมหวานๆ และเครื่องเคียงที่หลากหลาย ซึ่งเป็นที่มาของน้ำแข็งใสในแบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

    **น้ำแข็งใสกับวัฒนธรรมไทย**

    น้ำแข็งใสไม่เพียงแต่เป็นของหวานคลายร้อน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยด้วย โดยมักพบเห็นการขายน้ำแข็งใสในงานเทศกาล งานวัด และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

    **เคล็ดลับการกินน้ำแข็งใสแบบฟินๆ**

    เพื่อให้ได้รสชาติและความอร่อยเต็มที่ในการกินน้ำแข็งใส ลองปฏิบัติตามเคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้ * **เลือกน้ำแข็งใสที่เกล็ดละเอียด:** เกล็ดน้ำแข็งที่ละเอียดจะละลายช้ากว่า ทำให้ได้รสชาติและความสดชื่นที่ยาวนานขึ้น * **ใส่น้ำเชื่อมในปริมาณที่พอเหมาะ:** น้ำเชื่อมมากเกินไปจะทำให้หวานเลี่ยนและอาจทำให้เจ็บคอได้ * **เลือกเครื่องเคียงที่ลงตัว:** เลือกเครื่องเคียงที่หลากหลาย ทั้งผลไม้สด ผลไม้เชื่อม และวุ้น เพื่อเพิ่มรสชาติและความอร่อย * **กินตอนที่น้ำแข็งยังไม่ละลาย:** น้ำแข็งใสที่ละลายแล้วจะจืดชืดและไม่อร่อย

    **เรื่องเล่าสนุกๆ เกี่ยวกับน้ำแข็งใส**

    * ในปี 2019 มีการจัดประกวดกินน้ำแข็งใสในเมืองเชียงใหม่ โดยผู้ชนะสามารถกินน้ำแข็งใส 20 ถ้วยภายในเวลา 1 ชั่วโมง * มีร้านน้ำแข็งใสในกรุงเทพฯ แห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเคียงที่หลากหลายมากกว่า 50 อย่าง * ในบางจังหวัด น้ำแข็งใสมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน เช่น ในจังหวัดนครศรีธรรมราชเรียก "น้ำแข็งใสจาละหวา"

    **บทสรุป**

    น้ำแข็งใส ของหวานคลายร้อนยอดนิยมของคนไทย ที่มีทั้งความหวานชื่นใจและความหลากหลายของเครื่องเคียง ไม่ว่าจะรับประทานในช่วงฤดูร้อนหรือในโอกาสใดๆ ก็สร้างความสดชื่นและความสุขได้เสมอ ice makers