น้ำแข็งใส เติมความเย็นฉ่ำในวันอากาศร้อน
น้ำแข็งใส เติมความเย็นฉ่ำในวันอากาศร้อน
ประวัติความเป็นมาของเครื่องทำน้ำแข็ง
ในอดีต น้ำแข็งเป็นของหายากและมีราคาแพง คนส่วนใหญ่จึงต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อหาทางทำน้ำแข็งเอง โดยในปี 1834 Jacob Perkins ได้ประดิษฐ์เครื่องทำน้ำแข็งเครื่องแรกขึ้น ซึ่งใช้หลักการทำความเย็นโดยการระเหยของอีเทอร์หรือแอมโมเนีย อย่างไรก็ตาม เครื่องทำน้ำแข็งเครื่องนี้มีขนาดใหญ่และซับซ้อนเกินกว่าที่จะใช้งานในครัวเรือน ในปี 1850 Ferdinand Carré ได้ประดิษฐ์เครื่องทำน้ำแข็งที่มีขนาดเล็กกว่าและใช้งานง่ายกว่า โดยใช้หลักการทำความเย็นโดยการระเหยของแอมโมเนีย เครื่องทำน้ำแข็งเครื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเครื่องใช้ที่จำเป็นในครัวเรือน ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ได้มีการพัฒนาเครื่องทำน้ำแข็งหลายประเภท โดยในปี 1892 Thomas Moore ได้ประดิษฐ์เครื่องทำน้ำแข็งอัตโนมัติเครื่องแรก ซึ่งใช้หลักการทำความเย็นโดยการระเหยของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เครื่องทำน้ำแข็งประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในครัวเรือนเครื่องทำน้ำแข็งในปัจจุบัน
เครื่องทำน้ำแข็งในปัจจุบันมีหลายประเภท โดยแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ประเภทของเครื่องทำน้ำแข็งที่นิยมใช้ ได้แก่ * เครื่องทำน้ำแข็งแบบติดตั้งกับตู้เย็น โดยปกติแล้วจะมีขนาดเล็กและมีราคาไม่แพง แต่มีข้อจำกัดในการผลิตน้ำแข็ง * เครื่องทำน้ำแข็งแบบตั้งโต๊ะ โดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดใหญ่กว่าและมีราคาแพงกว่าเครื่องทำน้ำแข็งแบบติดตั้งกับตู้เย็น แต่สามารถผลิตน้ำแข็งได้มากกว่า * เครื่องทำน้ำแข็งแบบอุตสาหกรรม โดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดใหญ่ที่สุดและมีราคาแพงที่สุด แต่สามารถผลิตน้ำแข็งได้ในปริมาณมากประโยชน์ของเครื่องทำน้ำแข็ง
เครื่องทำน้ำแข็งมีประโยชน์หลายประการ ได้แก่ *เพิ่มความสะดวกสบาย: เครื่องทำน้ำแข็งช่วยให้คุณสามารถมีน้ำแข็งได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องออกไปซื้อนอกบ้าน *
ประหยัดเงิน: การซื้อน้ำแข็งจากร้านค้าอาจมีราคาแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน เครื่องทำน้ำแข็งจะช่วยให้คุณประหยัดเงินในระยะยาว *
สุขภาพดีขึ้น: น้ำแข็งจากเครื่องทำน้ำแข็งของคุณจะสะอาดกว่าน้ำแข็งที่ซื้อจากร้านค้า ซึ่งมักมีการจัดการที่ไม่ถูกสุขลักษณะ *
ใช้งานง่าย: เครื่องทำน้ำแข็งส่วนใหญ่ใช้งานง่าย เพียงแค่เสียบปลั๊ก เติมน้ำ แล้วก็กดปุ่ม
วิธีเลือกเครื่องทำน้ำแข็ง
มีปัจจัยหลายประการที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกเครื่องทำน้ำแข็ง ได้แก่ *ขนาด: ขนาดของเครื่องทำน้ำแข็งควรเหมาะกับความต้องการของคุณ หากคุณใช้เครื่องทำน้ำแข็งบ่อยครั้ง คุณจะต้องซื้อเครื่องที่มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่า *
ความจุ: ความจุของเครื่องทำน้ำแข็งคือปริมาณน้ำแข็งที่สามารถผลิตได้ในแต่ละครั้ง ความจุของเครื่องทำน้ำแข็งจะแตกต่างกันไปตั้งแต่ 2-10 ปอนด์ *
ราคา: ราคาของเครื่องทำน้ำแข็งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาด ความจุ และคุณสมบัติ ราคาเฉลี่ยของเครื่องทำน้ำแข็งอยู่ที่ 100-500 ดอลลาร์ *
คุณสมบัติ: เครื่องทำน้ำแข็งบางเครื่องมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ตัวจับเวลา จอแสดงผลดิจิทัล และถังเก็บน้ำแข็ง คุณสมบัติเหล่านี้สามารถเพิ่มความสะดวกและความง่ายในการใช้งาน
การดูแลรักษาเครื่องทำน้ำแข็ง
การดูแลรักษาเครื่องทำน้ำแข็งเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน มีขั้นตอนง่ายๆ สองสามขั้นตอนที่คุณสามารถปฏิบัติตามเพื่อดูแลเครื่องทำน้ำแข็งของคุณ ได้แก่ *ทำความสะอาดเป็นประจำ: ควรทำความสะอาดเครื่องทำน้ำแข็งเป็นประจำเพื่อขจัดคราบตะกรันและสิ่งสกปรก ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดภายนอกเครื่องและถังเก็บน้ำแข็ง แล้วล้างชิ้นส่วนที่ถอดได้ด้วยน้ำสบู่ ให้แน่ใจว่าได้ล้างเครื่องทำน้ำแข็งอย่างทั่วถึงก่อนใช้งานอีกครั้ง *
เปลี่ยนไส้กรอง: เครื่องทำน้ำแข็งบางเครื่องมีไส้กรองที่ต้องเปลี่ยนเป็นประจำ ไส้กรองจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสารปนเปื้อนจากน้ำ ซึ่งจะช่วยให้เครื่องทำน้ำแข็งผลิตน้ำแข็งที่สะอาดและบริสุทธิ์ ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อเปลี่ยนไส้กรองอย่างถูกต้อง *
แก้ไขปัญหา: หากเครื่องทำน้ำแข็งของคุณไม่ทำงานหรือทำงานได้ไม่ถูกต้อง คุณสามารถลองแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองก่อนที่จะโทรเรียกช่างซ่อม มีปัญหาทั่วไปบางประการที่คุณสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เช่น เครื่องทำน้ำแข็งไม่ผลิตน้ำแข็ง เครื่องทำน้ำแข็งผลิตน้ำแข็งน้อยเกินไป เครื่องทำน้ำแข็งผลิตน้ำแข็งที่มีกลิ่นไม่ดี