หอมหวาน ละมุนลิ้น กับไอศกรีมชาไทย ยอดนิยมอันดับหนึ่งในใจ

     หอมหวาน ละมุนลิ้น กับไอศกรีมชาไทย ยอดนิยมอันดับหนึ่งในใจ

    หอมหวาน ละมุนลิ้น กับไอศกรีมชาไทย ยอดนิยมอันดับหนึ่งในใจ

    ไอศกรีมชาไทย ขนมหวานสุดฮิตที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยรสชาติหอมหวาน ละมุนลิ้น และกลิ่นชาไทยอันเป็นเอกลักษณ์ วันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องราวเกี่ยวกับไอศกรีมชาไทย ตั้งแต่ประวัติ ความนิยม และเคล็ดลับความอร่อย ไปจนถึงสูตรการทำไอศกรีมชาไทยง่ายๆ ที่คุณสามารถทำเองได้ที่บ้าน

    ประวัติไอศกรีมชาไทย

    ไอศกรีมชาไทยมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่คนไทยนำชาไทยมาผสมกับกะทิ เพื่อเพิ่มความหอมมันและความหวาน จากนั้นจึงนำไปแช่แข็งจนกลายเป็นไอศกรีม ในช่วงแรกไอศกรีมชาไทยยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่เมื่อมีการพัฒนาสูตรและรสชาติให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น ไอศกรีมชาไทยก็เริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย

    ความนิยมของไอศกรีมชาไทย

    ไอศกรีมชาไทยเป็นหนึ่งในขนมหวานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีการจัดอันดับให้เป็นไอศกรีมยอดนิยมอันดับหนึ่งในใจคนไทยมาอย่างต่อเนื่องหลายปี จากการสำรวจของบริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ พบว่าคนไทยกว่า 90% ชื่นชอบไอศกรีมชาไทย และมีการบริโภคไอศกรีมชาไทยโดยเฉลี่ยปีละกว่า 10 ล้านลิตร

    เคล็ดลับความอร่อยของไอศกรีมชาไทย

    ความอร่อยของไอศกรีมชาไทยนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น - ชนิดของชาไทย: ควรใช้ชาไทยเกรดดี มีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้น - ปริมาณกะทิ: ควรใช้กะทิสดหรือกะทิกล่องที่ไม่เจือจางจนเกินไป เพื่อให้ได้ความหอมมันและความหวานที่พอเหมาะ - สัดส่วนของชาไทยและกะทิ: สัดส่วนที่เหมาะสมของชาไทยและกะทิจะทำให้ได้ไอศกรีมที่มีความหอมหวานและกลมกล่อม - วิธีการทำ: การตีไข่แดงผสมกับกะทิและชาไทยให้เข้ากันก่อน แล้วจึงนำไปแช่แข็ง จะช่วยให้ได้ไอศกรีมที่มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่มและไม่เป็นเกล็ดน้ำแข็ง

    สูตรไอศกรีมชาไทยง่ายๆ ทำเองได้ที่บ้าน

    หากคุณอยากลองทำไอศกรีมชาไทยทานเองที่บ้าน เราขอแนะนำสูตรไอศกรีมชาไทยง่ายๆ ดังนี้

    ส่วนผสม

    • ชาไทยสำเร็จรูป 1 ถ้วย
    • กะทิกล่อง 1 กล่อง (200 มิลลิลิตร)
    • ไข่แดง 2 ฟอง
    • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
    • นมข้นหวาน 1 กระป๋อง

    วิธีทำ

    1. ชงชาไทยสำเร็จรูปกับน้ำร้อน 1 ถ้วย รอจนชาเย็นลง 2. ตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายจนส่วนผสมเข้ากันและมีสีอ่อนลง 3. ค่อยๆ เทชาไทยที่เย็นลงแล้วลงในส่วนผสมไข่แดงทีละน้อย sambil diaduk ให้เข้ากัน 4. นำกะทิ เทลงในส่วนผสมไข่แดง ชาไทย และน้ำตาล ทีละน้อย sambil diaduk ให้เข้ากัน 5. เทส่วนผสมทั้งหมดลงในโถปั่น แล้วปั่นจนส่วนผสมเนียนเข้ากัน 6. เทส่วนผสมลงในภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วนำไปแช่แข็งประมาณ 4-6 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะแข็งตัว 7. ตักไอศกรีมชาไทยเสิร์ฟพร้อม toppings ตามชอบ

    เรื่องราวของไอศกรีมชาไทย

    ไอศกรีมชาไทยนอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนอยู่มากมาย เช่น - ไอศกรีมชาไทยเป็นไอศกรีมที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก ไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น - ไอศกรีมชาไทยเคยได้รับการบันทึกใน Guinness World Records ว่าเป็น "ไอศกรีมชาไทยที่ใหญ่ที่สุดในโลก" เมื่อปี 2015 โดยมีน้ำหนักกว่า 1 ตัน - ไอศกรีมชาไทยเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น ขนมปังไอศกรีมชาไทย โดนัทไอศกรีมชาไทย และเค้กไอศกรีมชาไทย

    ไอศกรีมชาไทยในวัฒนธรรมไทย

    ไอศกรีมชาไทยเป็นมากกว่าแค่ขนมหวาน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยอีกด้วย - ไอศกรีมชาไทยเป็นของหวานที่มักเสิร์ฟในงานสำคัญๆ เช่น งานแต่งงาน งานบวช และงานเลี้ยงต่างๆ - ไอศกรีมชาไทยเป็นขนมหวานที่นิยมรับประทานคู่กับขนมไทยอื่นๆ เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง ลอดช่อง และสาคูเปียก - ไอศกรีมชาไทยเป็นขนมหวานที่ช่วยดับร้อนและคลายเครียดได้เป็นอย่างดี

    ไอศกรีมชาไทยกับสุขภาพ

    ถึงแม้ว่าไอศกรีมชาไทยจะมีรสชาติที่อร่อย แต่ก็ไม่ควรบริโภคในปริมาณมากจนเกินไป เนื่องจากไอศกรีมชาไทยมีส่วนผสมของน้ำตาล ไขมัน และแคลอรี่ค่อนข้างสูง - ไอศกรีมชาไทย 1 ถ้วย มีปริมาณแคลอรี่ประมาณ 250-300 แคลอรี่ - ไอศกรีมชาไทย 1 ถ้วย มีปริมาณน้ำตาลประมาณ 25-30 กรัม - ไอศกรีมชาไทย 1 ถ้วย มีปริมาณไขมันประมาณ 10-15 กรัม

    ข้อควรระวังในการบริโภคไอศกรีมชาไทย

    หากคุณมีสุขภาพแข็งแรงดี คุณสามารถบริโภคไอศกรีมชาไทยได้ในปริมาณที่พอเหมาะ แต่หากคุณมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคไอศกรีมชาไทย

    สรุป

    ไอศกรีมชาไทยเป็นขนมหวานยอดนิยมอันดับหนึ่งในใจคนไทย ด้วยรสชาติหอมหวาน ละมุนลิ้น และกลิ่นชาไทยอันเป็นเอกลักษณ์ ไอศกรีมชาไทยเป็นมากกว่าแค่ขนมหวาน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคไอศกรีมชาไทยในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อสุขภาพที่ดี

    thai iced tea ice cream