น้ำแข็งหรือดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบน้ำแข็ง สร้างแรงบันดาลใจกับดอกกุหลาบแห่งความเย็นยะเยือก
น้ำแข็งหรือดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบน้ำแข็ง สร้างแรงบันดาลใจกับดอกกุหลาบแห่งความเย็นยะเยือก
กุหลาบน้ำแข็ง (Iceberg Roses) เป็นดอกกุหลาบที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เนื่องจากมีรูปทรงดอกที่สวยงามและมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์
ถิ่นกำเนิดและประวัติ
กุหลาบน้ำแข็งมีถิ่นกำเนิดในประเทศเยอรมนี โดยได้ผสมพันธุ์ครั้งแรกในปี 1958 โดย Reimer Kordes ปัจจุบันกลายเป็นดอกกุหลาบตัดดอกที่มีการปลูกกันมากที่สุดในโลก
ลักษณะเด่นของกุหลาบน้ำแข็ง
รูปทรงดอก
ดอกกุหลาบน้ำแข็งมีรูปทรงคล้ายชามหรือจาน คว่ำ มีกลีบดอกซ้อนกันหลายชั้น คล้ายกับดอกโบตั๋น
สีสัน
ดอกกุหลาบน้ำแข็งมักมีสีขาวบริสุทธิ์ แต่ก็มีบางพันธุ์ที่มีสีอื่นๆ เช่น สีชมพู สีเหลือง หรือสีส้ม
ขนาดดอก
ดอกกุหลาบน้ำแข็งมีขนาดดอกค่อนข้างใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8-10 เซนติเมตร
กลิ่น
กุหลาบน้ำแข็งมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ มีความหอมหวานอ่อนๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
การปลูกและดูแลกุหลาบน้ำแข็ง
สภาพดิน
กุหลาบน้ำแข็งเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี มีความเป็นกรดเล็กน้อย (pH 6.0-6.5)
แสงแดด
กุหลาบน้ำแข็งต้องการแสงแดดเต็มวันอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
การให้น้ำ
ควรให้น้ำกุหลาบน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ โดยให้น้ำเมื่อดินเริ่มแห้ง
การใส่ปุ๋ย
ควรใส่ปุ๋ยให้กุหลาบน้ำแข็งทุก 2-3 เดือน โดยใช้ปุ๋ยสำหรับดอกกุหลาบ
โรคและแมลงศัตรู
กุหลาบน้ำแข็งอาจได้รับความเสียหายจากโรคและแมลงศัตรูได้ เช่น โรคราแป้ง โรคราสนิม หรือเพลี้ยอ่อน
การขยายพันธุ์
สามารถขยายพันธุ์กุหลาบน้ำแข็งได้โดยการตอนกิ่งหรือการปักชำ
ประโยชน์ของกุหลาบน้ำแข็ง
ดอกไม้ประดับ
กุหลาบน้ำแข็งเป็นดอกไม้ประดับที่มีความสวยงามเหมาะสำหรับปลูกในสวนหรือจัดแจกัน
น้ำหอม
กลิ่นหอมของกุหลาบน้ำแข็งถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม
เรื่องราวที่น่าสนใจ
ในปี 2000 กุหลาบน้ำแข็งได้รับรางวัล "Award of Garden Merit" จาก Royal Horticultural Society (RHS) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับพืชที่มีคุณสมบัติโดดเด่น
บทสรุป
กุหลาบน้ำแข็งเป็นดอกกุหลาบที่สวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ทั้งในสวนและสำหรับตัดดอก การปลูกและดูแลกุหลาบน้ำแข็งไม่ซับซ้อน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการปลูกดอกไม้