น้ำแข็งไส...ความสุขที่แสนจะง่ายดาย
น้ำแข็งไส...ความสุขที่แสนจะง่ายดาย
ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ชื้นแฉะ ฝนก็ไม่ตก การได้กินอะไรเย็นๆหวานๆ สดชื่นๆ คงเป็นความสุขอย่างหนึ่งเลยใช่ไหมคะ วันนี้อายเลยจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับของกินสุดคลาสสิคอย่าง "น้ำแข็งไส" ของหวานที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานกันเลยละค่ะ
ประวัติความเป็นมาของน้ำแข็งไส
น้ำแข็งไส หรือ ไอติมไส มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนในยุคโบราณ โดยในบันทึกโบราณของจีน พบว่ามีการนำน้ำแข็งธรรมชาติมาไส ขูด และผสมกับผลไม้หรือน้ำหวานต่างๆ ซึ่งคล้ายคลึงกับน้ำแข็งใสในปัจจุบัน ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907) ได้มีการพัฒนาเครื่องทำน้ำแข็งขึ้นมา ทำให้สามารถผลิตน้ำแข็งได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาน้ำแข็งธรรมชาติ นำไปสู่การแพร่หลายของน้ำแข็งไสในหมู่ชาวจีน และกลายมาเป็นของหวานยอดนิยมในเวลาต่อมา
น้ำแข็งไสเข้ามาในไทยได้อย่างไร?
น้ำแข็งไสเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 โดยชาวจีนโพ้นทะเลได้นำเข้ามาจำหน่ายในกรุงเทพมหานคร ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นอาหารราคาแพงที่หาทานได้เฉพาะในหมู่ชนชั้นสูงเท่านั้น ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาเครื่องทำน้ำแข็งในประเทศไทย ทำให้น้ำแข็งไสกลายเป็นอาหารที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน
ประโยชน์ของการกินน้ำแข็งไส
ถึงแม้ว่าน้ำแข็งไสจะมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำแข็ง แต่ก็ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่บ้างนะคะ โดยตามข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าน้ำแข็งไสมีส่วนประกอบของน้ำประมาณ 95% ซึ่งช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำและช่วยดับกระหายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีปริมาณแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
สรรพคุณทางยาของเครื่องเคียง
เครื่องเคียงที่ใช้ทานคู่กับน้ำแข็งไส เช่น ทับทิมกรอบ ลูกชิด ขนุน มะพร้าวอ่อน ฯลฯ ก็มีคุณค่าทางโภชนาการที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วย เช่น
* ทับทิมกรอบ: มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและต้านอนุมูลอิสระ
* ลูกชิด: มีเส้นใยอาหารสูง ช่วยในการขับถ่ายและลดระดับคอเลสเตอรอล
* ขนุน: มีวิตามินซีและโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
* มะพร้าวอ่อน: มีน้ำตาลธรรมชาติและอิเล็กโทรไลต์ ช่วยชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่ร่างกายสูญเสียไป
ความหลากหลายของน้ำแข็งไส
น้ำแข็งไสในปัจจุบันมีหลากหลายรสชาติและหน้าตาให้เลือกทานมากมาย นอกจากรสชาติยอดนิยมอย่าง น้ำแดง น้ำเขียว น้ำกะทิ น้ำโค้กแล้ว ยังมีรสชาติแปลกๆใหม่ๆที่คิดค้นขึ้นมาเอาใจเหล่าคนชอบลองอีกด้วย เช่น รสชาติผลไม้ต่างๆ ชาเขียว ช็อกโกแลต เป็นต้น ส่วนหน้าตาก็มีทั้งแบบใส่น้ำหวานอย่างเดียว ใส่เครื่องเคียง หรือท็อปปิ้งด้วยไอศกรีม วุ้นเส้น หรือสายไหมอีกด้วย
เมนูน้ำแข็งไสยอดนิยม
ในบรรดาน้ำแข็งไสหลากหลายรสชาติและหน้าตา ปัจจุบันมีเมนูยอดนิยมอยู่หลายเมนู เช่น
* น้ำแข็งไสรวมมิตร: เป็นน้ำแข็งไสที่ใส่เครื่องเคียงหลากหลายชนิดทั้งทับทิมกรอบ ลูกชิด ขนุน มะพร้าวอ่อน วุ้น ฯลฯ
* น้ำแข็งไสกะทิทุเรียน: เป็นน้ำแข็งไสที่ราดด้วยกะทิสดและทุเรียนกวน เนื้อทุเรียนเน้นๆ หวาน มัน อร่อย
* น้ำแข็งไสซ่าหริ่ม: เป็นน้ำแข็งไสที่ราดด้วยน้ำกะทิและซ่าหริ่มที่มีความหวานมัน หอมกลิ่นน้ำตาลปี๊บและกะทิ
* น้ำแข็งไสโอวัลติน: เป็นน้ำแข็งไสที่ราดด้วยโอวัลตินเข้มข้น เนื้อเนียนละเอียด หวานมัน อร่อย
* น้ำแข็งไสสายไหม: เป็นน้ำแข็งไสที่ท็อปปิ้งด้วยสายไหมสีสันสวยงาม เพิ่มความหวาน ความอร่อย และความสนุกสนานในการรับประทาน
ราคาของน้ำแข็งไส
ราคาของน้ำแข็งไสขึ้นอยู่กับขนาด รสชาติ และหน้าตา โดยทั่วไปน้ำแข็งไสแบบธรรมดาจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 10-20 บาท ส่วนน้ำแข็งไสพิเศษที่ใส่เครื่องเคียงหรือท็อปปิ้งจะมีราคาสูงขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องเคียงหรือท็อปปิ้งที่เลือก
ราคาเปรียบเทียบ
จากการสำรวจราคาตามร้านค้าต่างๆ พบว่าราคาของน้ำแข็งไสมีการเปรียบเทียบได้ดังต่อไปนี้
| ประเภท | ราคา (บาท) |
|---|---|
| น้ำแข็งไสธรรมดา | 10-20 |
| น้ำแข็งไสใส่เครื่องเคียง 1 อย่าง | 15-25 |
| น้ำแข็งไสใส่เครื่องเคียง 2 อย่าง | 20-30 |
| น้ำแข็งไสท็อปปิ้งไอศกรีม | 25-35 |
| น้ำแข็งไสท็อปปิ้งสายไหม | 30-40 |
น้ำแข็งไสในวัฒนธรรมไทย
น้ำแข็งไสเป็นของหวานที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากช่วยดับกระหายและคลายความร้อนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นอาหารราคาถูก หาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป จึงกลายเป็นอาหารที่คนไทยทุกชนชั้นสามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ
น้ำแข็งไสในงานเทศกาล
น้ำแข็งไสยังเป็นของหวานที่มักปรากฏในงานเทศกาลต่างๆ เช่น งานวัด งานสงกรานต์ หรือแม้แต่งานคอนเสิร์ต โดยมักจะขายในรูปแบบของรถเข็นที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คน
น้ำแข็งไส...ความสุขที่ทุกคนเอื้อมถึง
น้ำแข็งไสเป็นของหวานที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ด้วยความอร่อย สดชื่น หวานเย็น และหาซื้อได้ง่ายในราคาที่ไม่แพง จึงเป็นอาหารที่คนไทยทุกชนชั้นสามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ คนจน คนรวย ต่างก็สามารถลิ้มรสความอร่อยของน้ำแข็งไสได้ทั้งสิ้น
เรื่องเล่าสุดซึ้ง
มีเรื่องเล่าสุดซึ้งเกี่ยวกับน้ำแข็งไสที่ผู้เขียนได้ยินมา โดยเล่าว่าสมัยก่อนมีครอบครัวที่ยากจนมาก ครอบครัวนี้มีลูกเล็กๆ 2 คน วันหนึ่งในช่วงฤดูร้อนที่แสนร้อนระอ ครอบครัวนี้ไม่มีเงินซื้ออะไรให้ลูกกินเลย นอกจากน้ำเปล่า ลูกทั้ง 2 คนหิวน้ำและร้อนจนทนไม่ไหว ร้องไห้ด้วยความหิวและกระหายอยู่ตลอดเวลา
ผู้เป็นแม่เห็นลูกน้อยของตนทรมานด้วยความหิวและกระหาย จึงเกิดความสงสารและตัดสินใจออกไปหาอะไรมาให้ลูกกิน ท่านเดินออกจากบ้านไปตามถนนสายหลัก หวังว่าจะได้เจอคนใจดีให้ของกินหรือช่วยเหลืออะไรก็ได้ แต่เดินไปนานเท่าใดก็ไม่มีใครสนใจเลยสักคน
ด้วยความสิ้นหวัง ผู้เป็นแม่จึงนั่งลงร้องไห้อยู่ข้างทาง จู่ๆก็มีหญิงชราคนหนึ่งเดินเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้เป็นแม่จึงเล่าความจริงทั้งหมดให้หญิงชราฟัง หญิงชราเกิดความสงสาร จึงพาผู้เป็นแม่ไปที่ร้านขายน้ำแข็งไสของตนเอง และสั่งให้น้ำแข็งไสธรรมดา 3 ถ้วย จากนั้นก็ให้ผู้เป็นแม่และลูกทั้ง 2 กินจนอิ่ม
เด็กน้อยทั้ง 2 ดีใจมากและกินน้ำแข็งไสอย่างเอร็ดอร่อย ผู้เป็นแม่เห็นลูกมีความสุขเช่นนี้ ก็มีความสุขด้วย
