**อาการปวดหลัง หายได้ด้วยวิธีง่ายๆ ที่บ้าน**
**อาการปวดหลัง หายได้ด้วยวิธีง่ายๆ ที่บ้าน**
อาการปวดหลัง เป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย โดยพบว่า 80% ของประชากรทั่วโลกเคยมีอาการปวดหลังอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต และ 50% ของผู้ที่มีอาการปวดหลังจะกลับมาเป็นซ้ำอีกภายใน 1 ปี
อาการปวดหลังแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
* **อาการปวดหลังเฉียบพลัน** เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การยกของหนักผิดวิธี การนั่งหรือยืนผิดท่าเป็นเวลานาน อาการปวดมักจะหายได้เองภายใน 4-6 สัปดาห์
* **อาการปวดหลังเรื้อรัง** เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังเสื่อม หรือโรคข้ออักเสบ อาการปวดมักจะกินเวลานานเกิน 6 สัปดาห์
**สาเหตุของอาการปวดหลัง**
สาเหตุของอาการปวดหลังมีมากมาย โดยสาเหตุที่พบบ่อยได้แก่
* การยกของหนักผิดวิธี
* การนั่งหรือยืนผิดท่าเป็นเวลานาน
* อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บ
* หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท
* กระดูกสันหลังเสื่อม
* โรคข้ออักเสบ
**อาการของอาการปวดหลัง**
อาการของอาการปวดหลังแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ โดยอาการที่พบบ่อยได้แก่
* ปวดหลังบริเวณส่วนล่าง กลาง หรือบน
* ปวดร้าวลงไปตามขา
* อาการปวดอาจจะแย่ลงเมื่อนั่ง ยืน หรือเดิน
* อาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่าบริเวณหลังหรือขา
* กล้ามเนื้อหลังอ่อนแรง
**การวินิจฉัยอาการปวดหลัง**
แพทย์จะทำการวินิจฉัยอาการปวดหลังโดยการซักประวัติและตรวจร่างกาย แพทย์อาจจะสั่งให้ทำการเอกซเรย์ คอมพิวเตอร์สแกน หรือ MRI เพื่อหาสาเหตุของอาการปวด
**การรักษาอาการปวดหลัง**
การรักษาอาการปวดหลังจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ โดยวิธีการรักษาที่พบบ่อยได้แก่
* การรักษาด้วยยา เช่น ยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบ หรือยาคลายกล้ามเนื้อ
* การรักษาด้วยกายภาพบำบัด เช่น การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังและแกนกลางลำตัว การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และการนวด
* การฉีดยา เช่น การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปในบริเวณที่ปวดเพื่อลดการอักเสบ
* การผ่าตัด ในกรณีที่อาการปวดรุนแรงมากและไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่นๆ
**การป้องกันอาการปวดหลัง**
การป้องกันอาการปวดหลังสามารถทำได้โดย
* การยกของหนักอย่างถูกวิธี
* การนั่งหรือยืนให้ถูกท่า
* การออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังและแกนกลางลำตัว
* การยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังเป็นประจำ
* การรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
**เรื่องราวตัวอย่าง**
นายสมชาย อายุ 45 ปี เป็นพนักงานออฟฟิศที่มีอาการปวดหลังมานานกว่า 1 ปีแล้ว อาการปวดเป็นแบบปวดร้าวลงไปตามขาข้างซ้าย นายสมชายได้ไปพบแพทย์และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท แพทย์ได้ทำการฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปในบริเวณที่ปวด และแนะนำให้นายสมชายทำกายภาพบำบัดควบคู่ไปด้วย อาการปวดของนายสมชายค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากทำกายภาพบำบัดได้ประมาณ 6 สัปดาห์
นางสาวสมศรี อายุ 30 ปี เป็นนักศึกษาที่นั่งเรียนเป็นเวลานานๆ ทุกวัน นางสาวสมศรีมีอาการปวดหลังบริเวณส่วนล่างมานานกว่า 2 เดือนแล้ว อาการปวดเป็นแบบปวดตื้อๆ และจะปวดมากขึ้นเมื่อนั่งหรือนอน นางสาวสมศรีได้ไปพบแพทย์และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นอาการปวดหลังเฉียบพลัน แพทย์แนะนำให้นางสาวสมศรีนอนพัก รับประทานยาแก้ปวด และทำกายภาพบำบัด อาการปวดของนางสาวสมศรีค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากพักผ่อนและทำกายภาพบำบัดได้ประมาณ 4 สัปดาห์
นายสมพงษ์ อายุ 50 ปี เป็นผู้รับเหมาที่ต้องยกของหนักเป็นประจำ นายสมพงษ์มีอาการปวดหลังบริเวณส่วนล่างมานานกว่า 5 ปีแล้ว อาการปวดเป็นแบบปวดเรื้อรังและจะปวดมากขึ้นเมื่อยกของหนัก นายสมพงษ์ได้ไปพบแพทย์และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นกระดูกสันหลังเสื่อม แพทย์แนะนำให้นายสมพงษ์ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังและแกนกลางลำตัว และหลีกเลี่ยงการยกของหนัก อาการปวดของนายสมพงษ์ค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากออกกำลังกายและหลีกเลี่ยงการยกของหนักได้ประมาณ 6 เดือน
**ข้อควรระวัง**
หากมีอาการปวดหลังรุนแรง หรือมีอาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่าบริเวณหลังหรือขา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของอาการปวดหลังที่รุนแรง เช่น หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท หรือกระดูกสันหลังเสื่อม
**บทสรุป**
อาการปวดหลังเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย โดยมีสาเหตุได้จากหลายปัจจัย การรักษาอาการปวดหลังจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ โดยวิธีการรักษาที่พบบ่อยได้แก่ การรักษาด้วยยา การรักษาด้วยกายภาพบำบัด การฉีดยา และการผ่าตัด การป้องกันอาการปวดหลังสามารถทำได้โดยการยกของหนักอย่างถูกวิธี การนั่งหรือยืนให้ถูกท่า การออกกำลังกายเป็นประจำ และการรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม หากมีอาการปวดหลังรุนแรงหรือมีอาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่าบริเวณหลังหรือขา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที